คือ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นอัปปมาณารัมมณธรรม ฯลฯ
อาศัยขันธ์ 2.
3. นปุเรชาตปัจจัย
[1552] 1. ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม
ฯลฯ เพราะนปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ฯลฯ อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นปริตตารัมมณธรรม ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ.
[1553] 2. มหัคคตารัมมณธรรม อาศัยมหัคคตารัมมณ-
ธรรม ฯลฯ เพราะนปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม
ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2.
เพราะนุปเรชาตปัจจัย ในมหัคคตารัมมณธรรม ปฏิสนธิ ไม่มี.
[1554] 3. อัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยอัปปมาณารัมมณ-
ธรรม เกิดขึ้น เพราะนปุเรชาตปัจจัย
คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่เป็นอัปปมาณารัมมณ-
ธรรม ฯลฯ อาศัยขันธ์ 2.
4. นปัจฉาชาตปัจจัย 5. นอาเสวนปัจจัย
เพราะนปัจฉาชาตปัจจัย เพราะนอาเสวนปัจจัย เหมือนกับ
เพราะนอธิปติปัจจัย.
6. นกัมมปัจจัย
[1555] 1. ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม
เกิดขึ้น เพราะนกัมมปัจจัย
คือ เจตนาที่เป็นปริตตารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็น
ปริตตารัมมณธรรม.
[1556] 2. มหัคคตารัมมณธรรม อาศัยมหัคคตารัมมณ
ธรรม เกิดขึ้น เพราะนกัมมปัจจัย
คือ เจตนาที่เป็นมหัคคตารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็น
มหัคคตารัมมณธรรม.
[1557] 3. อัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยอัปปมาณารัมมณ-
ธรรม เกิดขึ้น เพราะนกัมมปัจจัย
คือ เจตนาที่เป็นอัปปมาณารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็น
อัปปมาณารัมมณธรรม.
7. นวิปากปัจจัย ฯลฯ 9. นมัคคปัจจัย
[1558] 1. ปริตตารัมมณธรรม อาศัยปริตตารัมมณธรรม
เกิดขึ้น เพราะนวิปากปัจจัย. ปฏิสนธิ ไม่มี.
เพราะนฌานปัจจัย
คือ ขันธ์ 3 อาศัยขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณ ฯลฯ อาศัย
ขันธ์ 2 ฯลฯ
เพราะนมัคคปัจจัย